ฟันจนท.ปปง.รับสินบน 2 ล้านบาท

โดย ACT โพสเมื่อ Oct 22,2018

- - ขอบคุณข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ - -

 

ปปง.ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง- ให้ออกราชการ เจ้าหน้าที่เรียกรับสินบนนักธุรกิจเช่ารถ 2 ล้านบาท แจงเป็นแค่ระดับปฏิบัติการแอบอ้างชื่อ "ประวิตร" พร้อมโต้จ่าย ส่วนประเด็นส่วนแบ่ง ยึดทรัพย์ 20% ด้าน "เจ้าตัว" ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีข้าราชการข้าราชการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ที่มีพฤติกรรมเรียกรับสินบนจากนักธุรกิจรถเช่าในพื้นที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน20ล้านบาท พร้อมอ้างชื่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น

 

วานนี้(19 ต.ค.) พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาราชการแทนเลขาธิการปปง. เปิดเผยว่า ล่าสุดได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าเรื่องดังกล่าวมีมูลจริงเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวเป็นข้าราชการปปง. ในตำแหน่งระดับปฏิบัติการกองคดี 1 ดูแลรับผิดชอบคดีในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลไม่ใช่ระดับ ผู้อำนวยการส่วนตามที่กล่าวอ้างในคลิปเสียงแต่อย่างใด โดยปปง.ได้ตั้งกรรมการสอบสวนความผิดวินัยร้ายแรง และให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้วเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบ ต่อรูปคดีพร้อมตรวจสอบทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ข้อเท็จจริงปรากฏหลักฐานชัดว่ามีการดำเนินการเพียงคนเดียวไม่มีผู้อื่นเกี่ยวข้อง แต่หากพบมีบุคคลเกี่ยวข้องร่วมด้วยหรือมีความผิดอื่นจะดำเนินการตามกฎหมายส่วนที่ระบุว่า พล.อ.ประวิตร เป็น ผู้ให้มาดำเนินการนั้นตรวจสอบแล้วเป็นการแอบอ้างชื่อเพื่อผลประโยชน์เท่านั้น ส่วนที่ เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวอ้างว่า จะได้รับส่วนแบ่ง 20% จากการยึดอายัดทรัพย์สินของ ผู้กระทำความผิดนั้น ขอชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริงเพราะยกเลิกคำสั่งไปตั้งแต่ปี2550 เมื่อมีการยึดอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดสำนักงานปปง.จะต้องส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินตามพระราชบัญญัติปปง.หรือคืนทรัพย์สินให้กับผู้เสียหายในคดีนั้นๆ

 

ด้านนายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการ กองคดี 1 ปปง.ซึ่งถูกพาดพิงถึง ได้ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ได้เห็นเอกสารหนังสือราชการที่ถูกกล่าวถึง ซึ่งยอมรับว่ามีลักษณะคล้ายกับลายเซ็นตัวเอง แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ลายเซ็นตัวเองแน่นอน และล่าสุดได้ถูกนำชื่อไปแอบอ้างว่า ว่าชื่อ "พัฒน์" ไปเรียกรับเงิน ซึ่งจะมีการแถลงเปิดโปงขบวนการที่แอบอ้างชื่อตนในวันที่ 22 ต.ค.นี้ ซึ่งทราบว่าผู้ต้องหาเป็นนายตำรวจ อย่างไรก็ดีกรณีมีการพุ่งเป้ามาที่ตนนั้น ยืนยันว่าจะขอตรวจสอบข้อมูลก่อน หากมีการพาดพิง ปรากฏชื่อให้เสื่อมเสีย อาจจะพิจารณาปกป้องสิทธิ์ตามกฎหมายของตัวเองต่อไป

 

 

 

 

#ร่วมเป็นคนไทยตื่นรู้สู้โกง

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน